Q  

สวัสดีครับ ผมมีเรื่องรบกวนถามขอคำแนะนำเกี่ยวกับบัตรเครดิตหน่อยครับ (ตัวผมเองยังไม่มีบัตรเครดิตหรอก นะครับ แต่อยากทราบข้อมูลเอาไว้) เนื่องจากเพื่อนๆ บ่นให้ฟังบ่อยๆ ถึงหนี้บัตรเครดิต ว่าค่าใช้จ่ายที่ผู้ประกอบ ธุรกิจบัตรเครดิตเรียกเก็บนั้นสูงมาก ผมจึงอยากจะรู้ว่า โดยปกติแล้วผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต เขาจะเรียกเก็บ ค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง อย่างไร มีการแจ้งไว้ให้ลูกค้าทราบชัดเจนก่อนที่จะสมัครบัตรเครดิตหรือไม่ (ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ เนื่องจากไม่เคยสนใจมาก่อน) สุดท้าย ขอคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับวิธีการใช้บัตรเครดิตด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 


 A   

สวัสดีค่ะ ขอบคุณสำหรับคำถามนะคะ เรื่องราวเกี่ยวกับการเป็นหนี้บัตรเครดิต เป็นสิ่งที่เราได้ยินได้ฟังกันอยู่เสมอ มีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์และทีวีก็บ่อยครั้ง เหตุที่เป็นเช่นนั้นคงเพราะ ผู้ถือบัตรเครดิตบางคนนำบัตรเครดิต ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของบัตรเครดิตนั่นเอง

บัตรเครดิต เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทหนึ่ง ที่มีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ โดยที่ผู้ถือบัตรเครดิตไม่จำเป็นต้องพกพาเงินสดเป็นจำนวนมากให้เป็นภาระ และเสี่ยงต่อความปลอดภัยของตัวเอง ในปัจจุบัน แม้คุณสมบัติของบัตรเครดิต จะมีมากกว่าการนำไปเพื่อจับจ่ายใช้สอยแทนเงินสด เช่น การให้สิทธิแก่ผู้ถือบัตรเครดิตเบิกถอนเงินสดออกมาใช้ได้ด้วยแต่นั่นก็เป็นเพียงการเพิ่มความสะดวก สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ที่ต้องการใช้เงินสดอย่างเร่งด่วนในขณะใดขณะหนึ่งเท่านั้น (ทันทีที่คุณกดเงินสดออกมา คุณจะถูกหักค่าบริการและดอกเบี้ยเริ่มเดินแล้ว) เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการใช้บัตรเครดิต ผู้ถือบัตรเครดิต พึงระลึกเสมอว่า ตนเองมีภาระหนี้เกิดขึ้นแล้ว และมีหน้าที่ที่จะต้องชำระคืนภายในเวลาที่กำหนด นอกจากนั้น เพื่อแลกกับความสะดวกสบายที่จะได้รับเหล่านี้ ผู้ถือบัตรเครดิตก็อาจจะต้องเสียค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียมรายปี ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตแล้วแก่กรณีด้วย

ในขณะเดียวกัน หากผู้ถือบัตรเครดิตท่านใดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต อย่างไม่ระมัดระวัง กล่าวคือ นำไปใช้จ่ายเกินตัวมากเกินไป จนไม่มีกำลังในการชำระหนี้คืน หรือชำระหนี้คืนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ก็จะถูกผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตเรียกเก็บเบี้ยปรับ และดอกเบี้ยในอัตราที่สูง ต้องมานั่งแบกรับภาระหนี้ที่ทวีคูณขึ้นมาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ถึงตอนนั้นคงไปโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง...

ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้บัตรเครดิตสักใบ มาพิจารณารายละเอียดเงื่อนไข และค่าใช้จ่ายที่เขาแจ้งเอาไว้ก่อนดีกว่าค่ะ ซึ่งแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตของผู้ถือบัตรเครดิต และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการคิดค่าธรรมเนียมในการดำเนินงานของผู้ประกอบ ธุรกิจบัตรเครดิต ดังต่อไปนี้ :-

รายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตของผู้ถือบัตรเครดิต

1. ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าธรรมเนียม ค่าบริการอื่น ตามประกาศของธนาคารแห่ง ประเทศไทย ลงวันที่4 มีนาคม 2548 เรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต สำหรับผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต (ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยฯ) กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตเรียกเก็บดอกเบี้ยในหนี้ค้างชำระ หรือดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดชำระหนี้ หรือค่าปรับในการชำระหนี้ล่าช้ากว่ากำหนด หรือค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการอื่นใดจากผู้ถือบัตรเครดิต คำนวณรวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 18 ต่อปี ถ้าผู้ถือบัตรเครดิตชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนด ก็ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ค่ะ

2. อัตราการผ่อนชำระคืนขั้นต่ำ ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยฯ กำหนดเอาไว้ว่า ผู้ถือบัตรเครดิตรายใหม่นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2547 เป็นต้นมา จะต้องชำระหนี้ขั้นต่ำในแต่ละงวด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของยอดคงค้างทั้งสิ้นส่วนผู้ถือบัตรเครดิตรายเก่า ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2547 ต้องชำระหนี้ในแต่ละงวดไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของยอดคงค้างทั้งสิ้น แต่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 เป็นต้นไป ก็จะต้องชำระหนี้ขั้นต่ำในแต่ละงวดไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของยอดคงค้างทั้งสิ้นเช่นกันซึ่งบริษัทหรือสถาบันการเงินที่ให้บริการส่วนใหญ่จะกำหนดตามนี้ หรืออาจจะกำหนดเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระเพิ่มเติมเอาไว้อีกด้วย โดยมีจำนวนเงินขั้นต่ำในการชำระหนี้ในแต่ละงวดตั้งแต่ 200-500 บาท

3. ค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด ผู้ถือบัตรเครดิตที่มีความจำเป็นต้องเบิก จ่ายเงินสด อาจจะต้องพิจารณาค่าธรรมเนียมในส่วนนี้เอาไว้ให้ดี ซึ่งตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยฯ กำหนดเอาไว้ว่าผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใดรวมกันได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของเงินสดที่เบิกถอนนั้น

4. ระยะเวลาการชำระคืนโดยปลอดดอกเบี้ย หากชำระตามกำหนด เป็นเงื่อนไขที่ สำคัญ ซึ่งแจ้งให้ผู้ถือบัตรเครดิตทราบว่านับตั้งแต่ตัวเองได้ใช้บัตรเครดิตเพื่อ ชำระสินค้า หรือบริการแล้ว มีเวลาเท่าไหร่ ก่อนที่จะนำเงินมาชำระหนี้คืน เพื่อไม่ให้เสียดอกเบี้ยและค่าปรับ ซึ่งส่วนใหญ่ระยะเวลาที่ปลอดดอกเบี้ยจะถูกกำหนดไว้ที่ 45-55 วัน

ครั้งต่อไปติดตามต่อได้ ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการคิดค่าธรรมเนียมในการดำเนินงานของผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต และพลาดไม่ได้กับข้อแนะนำดีๆ ในการใช้บัตรเครดิต เพื่อให้มีเครดิตเอาไว้ใช้ได้นานๆ ค่ะ